จากยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลที่เน้นการพัฒนาสู่ ”ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน” และเตรียมขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ยุคThailand 4.0 ซึ่งจะเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ Digital Economy หรือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมโดยเฉพาะการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้เป็น Smarts enterprises
การเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจดังกล่าวทำให้บทบาทของสำนักงานบัญชีเปลี่ยนไปจากสำนักงานบัญชีแบบเดิมไปสู่สำนักงานบัญชี ดิจิทัล หรือเรียก Digital Accounting Firm ซึ่งเครื่องมือที่จะใช้ในการให้บริการทำบัญชีจึงต้องปรับเปลี่ยนเป็นโปแกรมบัญชีออนไลน์ แทนโปรแกรมบัญชีแบบดังเดิม
ดังนั้น สำนักงานบัญชี ที่จะปรับเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ควรจะต้องพิจารณา
1. Feature การทำงาน ของโปรแกรม
1.1. สามารถออกรายงานภาษีซื้อ และรายงานภาษีขาย
1.2. สามารถออกรายงาน ภ.ง.ด.3 และ 53 ได้
1.3. สามารถออกหนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่ายได้
1.4. สามารถ รองรับ การ e-tax invoice ในอนาคตได้
1.5. สามารถรองรับการจัดทำ e- filing กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมสรรพากรได้
2. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโปรแกรมจะต้องไม่สูงมาก และคุ้มค่า แก่การลงทุน
3. ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำบัญชีจากเดิมรับเอกสารจากลูกค้ามาทำบัญชีที่สำนักงาน ปรับเป็น ให้ลูกค้าดำเนินธุรกิจโดยใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ทั้งกิจกรรมซื้อ และขาย โดยโปรแกรมจะทำหน้าบันทึกบัญชีไปพร้อมกับการดำเนินงานของกิจการ สำนักงานบัญชี เป็น back office คอยปรับปรุงแก้ไข และปิดบัญชี ณ ที่สำนักงาน ซึ่งไม่จำเป็นต้องไปรับเอกสารจากลูกค้ามาบันทึกบัญชีเหมือนแต่ก่อนอีต่อไป ในส่วนนี้ค่าใช้จ่ายในการให้บริการทำบัญชีจะลดลง และ ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมลุกค้าเป็นผู้รับภาระ พร้อมกับลูกค้าจะได้ข้อมูลบริหารทันปัจจุบันมาทดแทน